การเปลี่ยนแบต

แบตเตอรี่รถยนต์ เปลี่ยนง่ายๆ และเลือกใช้ให้เหมาะสม     

     แบตเตอรี่รถยนต์ ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของรถยนต์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นแหล่งสะสมกระแสไฟฟ้า และจ่ายไฟฟ้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ซึ่งรถยนต์ในปัจจุบันก็มีระบบไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เช่น แร็คไฟฟ้า พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าแบตเตอรี่จะช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ สมบูรณ์ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งแบตเตอรี่เกิดมีปัญหาขึ้นมาล่ะ เราจะทำอย่างไร? ในคอลัมน์นี้ เราจึงมีวิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบง่ายๆ มาให้ได้ชมกัน โดยวิธีการจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปชมพร้อมกันเลยครับ


อุปกรณ์ที่ต้องใช้  :  ประแจเบอร์ 10 (หรือตามขนาดของน็อตที่ยึดขั้วแบตเตอรี่)


เตรียมแบตเตอร์ลูกใหม่ที่เราจะทำการใส่ลงไป แต่ก็ต้องดูขนาดของแบตเตอรี่เก่าที่ติดตั้งอยู่ในรถเราด้วยครับ ว่าเป็นรุ่นไหน ใช้กำลังไฟเท่าไหร่ ซึ่งถ้าจะให้ดียกแบตไปเทิร์นที่ร้านเลยก็ยิ่งดีครับ เพราะแบตลูกเก่าสามารถเทิร์นลูกใหม่ได้ ช่วยประหยัดงบในการซื้อแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้ 100-200 บาท เลยทีเดียว

 

นำประแจที่เตรียมไว้ ไขขั้วแบตเตอรี่ลูกเก่าออกได้เลยครับ โดยขันจากขั้วลบก่อนแล้วจึงขันขั้วบวกออกตาม เพื่อป้องกันการลัดวงจรของไฟฟ้าซึ่งส่งผลให้เกิดอาการสปาร์

 

เมื่อถอดขั้วแบตเตอรี่ออกแล้ว เราจะสังเกตได้ว่ามีคราบขี้เกลือขึ้น โดยสาเหตุอาจเกิดจากแบตเตอรี่ที่ใช้ มีการระเหยของน้ำกรดจึงทำให้มีคราบขี้เกลือเกาะอยู่ตามขั้วแบตเตอรี่

 

ถอดที่คาดบตเตอรี่ออก เพื่อเตรียมนำแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ใส่เข้าไป และทำความสะอาดขั้วแบตเตอร์รี่โดยการนำน้ำอุ่นมาราด และใช้แปรงสีฟันขูดคราบขี้เกลือออก

 

ใส่แบตเตอรี่ลูกที่เราเตรียมไว้ลงไป จัดท่าจัดทางให้เรียบร้อย และขันขั้วบวกเข้าไปก่อน จากนั้นค่อยขันขั้วลบตาม เพื่อป้องกันการลัดวงจรไฟฟ้า

 

ขั้นที่คาดแบตเตอรี่กลับเข้าที่โดยขันให้พอตึงมือ ไม่ให้หลวมหรือแน่นจนเกินไป และตรวจเช็คความเรียบร้อยต่างๆ เพื่อให้แบตเตอร์รี่ของเราใช้งานได้สมบูรณ์ที่สุดครับ

 

     เคล็ดลับอีกอย่างของการเลือกแบตเตอรี่ก็คือ แบตเตอรี่ที่เราเลือกใช้ นอกจะดูกำลังไฟ และการชาร์จแบตเตอรี่แล้ว เราควรจะใส่ใจเรื่องคุณสมบัติที่ติดมากับตัวแบตเตอรี่ด้วย โดยสมัยนี้มีเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งานในเขตร้อนอย่างบ้านเรา เช่น แบตเตอรี่ G7 ซึ่งแบตเตอรี่ชนิดนี้ ทำให้ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น แถมโครงสร้างภายในก็ยังมีความแข็งแรง ช่วยให้แบตเตอรี่ทนทานต่อสภาพการใช้งาน มีความปลอดภัยสูง เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตป้องกันการเกิดประกายไฟ ยิ่งเป็นแบตเตอร์รี่แห้งแล้วล่ะก็ ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการดูแลรักษาเลยล่ะครับ

 

 

24 มิถุนายน 2564

ผู้ชม 3822 ครั้ง

Engine by shopup.com